ของพรีเมี่ยม ของแจก และของที่ระลึก เป็นสิ่งของที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาด สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า และเป็นตัวแทนของแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ของพรีเมี่ยมที่เหมาะสมสามารถช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ เพิ่มความภักดีของลูกค้า และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรได้ มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของของพรีเมี่ยม วิธีเลือกของพรีเมี่ยมที่มีประสิทธิภาพ และแนวโน้มของของพรีเมี่ยมในยุคปัจจุบัน
ของพรีเมี่ยม (Premium Gift)หมายถึง ของขวัญที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากปกติ และมักถูกใช้เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายหรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์กับลูกค้า มักมีการพิมพ์โลโก้ หรือชื่อบริษัทลงไปบนสินค้าเพื่อช่วยให้เกิดการจดจำแบรนด์ ตัวอย่างของพรีเมี่ยมที่พบบ่อย ได้แก่ กระเป๋าผ้า แก้วน้ำ ปากกา สมุดโน้ต และอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ
ความแตกต่างระหว่างของพรีเมี่ยม ของแจก และของที่ระลึก
1. ของพรีเมี่ยม – เป็นของขวัญที่มีมูลค่าและคุณภาพสูง ใช้เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า หรือใช้เป็นแรงจูงใจให้เกิดการซื้อซ้ำ เช่น พาวเวอร์แบงก์ระดับพรีเมี่ยม หูฟังบลูทูธ หรือนาฬิกาแบรนด์เนม
2. ของแจก (Giveaway) – ของแจกเป็นสินค้าที่แจกฟรีเพื่อส่งเสริมการตลาด สร้างการรับรู้แบรนด์ เช่น ปากกา แก้วน้ำ หรือพวงกุญแจที่แจกในงานอีเวนต์
3. ของที่ระลึก (Souvenir) – ของที่ระลึกมักมีความหมายทางอารมณ์และมักถูกซื้อหรือแจกในโอกาสพิเศษ เช่น งานแต่งงาน งานประชุม หรืองานแสดงสินค้า เช่น แม่เหล็กติดตู้เย็นที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหรือภาพงานอีเวนต์
วิธีเลือกของพรีเมี่ยมที่มีประสิทธิภาพ
1. เลือกของพรีเมี่ยมที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
การเลือกของพรีเมี่ยมต้องคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น หากกลุ่มเป้าหมายเป็นพนักงานออฟฟิศ อาจเลือกของพรีเมี่ยมที่ใช้ได้จริงในที่ทำงาน เช่น สมุดโน้ต ปากกา หรือแก้วน้ำเก็บความร้อน
2. คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ
การเลือกของพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพดีจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ของพรีเมี่ยมที่มีคุณภาพต่ำอาจทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ไม่มีความใส่ใจในรายละเอียด
3. ควรเป็นสินค้าที่ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน
ของพรีเมี่ยมที่มีประโยชน์และสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น เช่น กระบอกน้ำ ผ้าห่ม หรืออุปกรณ์ไอที
4. มีเอกลักษณ์และสะท้อนตัวตนของแบรนด์
การเลือกของพรีเมี่ยมที่มีความเป็นเอกลักษณ์จะช่วยให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น การออกแบบสินค้าที่มีสีสันและลวดลายที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์
5. ความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม การเลือกของพรีเมี่ยมที่ผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น กระเป๋าผ้า แก้วน้ำสแตนเลส หรือผลิตภัณฑ์จากวัสดุรีไซเคิล จะช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น
แนวโน้มของพรีเมี่ยมในปัจจุบัน
1. สินค้าเทคโนโลยี – อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แบตเตอรี่สำรอง (Power Bank) หูฟังไร้สาย หรือแฟลชไดร์ฟเป็นของพรีเมี่ยมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
2. สินค้ารักษ์โลก – สินค้าประเภทกระบอกน้ำสแตนเลส ถุงผ้าลดโลกร้อน หรือปากกาทำจากไม้ไผ่กำลังเป็นที่นิยม
3. ของพรีเมี่ยมเพื่อสุขภาพ – อุปกรณ์ออกกำลังกาย หน้ากากผ้า หรือชุดตรวจสุขภาพเบื้องต้น เป็นของพรีเมี่ยมที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในยุคหลังโควิด-19
4. ของพรีเมี่ยมแบบสั่งทำพิเศษ – สินค้าที่สามารถพิมพ์ชื่อหรือออกแบบให้ตรงกับแบรนด์หรือโอกาสพิเศษ เช่น แก้วน้ำสกรีนโลโก้ สมุดโน้ตปั๊มชื่อบริษัท เป็นต้น
ของพรีเมี่ยม ของแจก และของที่ระลึกเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ สร้างความภักดีของลูกค้า และช่วยให้แบรนด์มีภาพลักษณ์ที่ดี การเลือกของพรีเมี่ยมที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าประทับใจ แต่ยังช่วยเสริมกลยุทธ์ทางธุรกิจให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย ในอนาคต การให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความยั่งยืน และความเป็นเอกลักษณ์ของของพรีเมี่ยมจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จในการใช้กลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพ